10 ประการของการเล่นหุ้น

10 ประการของการเล่นหุ้น

หากจะพูดถึงเรื่องการเล่นหุ้นแล้ว ย่อมมีเรื่องของเทคนิคเข้ามาเกี่ยวข้อง เนคนิคหรือกฎในการเล่นหุ้นนั้นมีอยู่มากมายที่มีการคิดค้นออกมาเผยแพร่ ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่า แนวทางทั้งหลายเหมาะกับเราหรือไม่ ที่สำคัญต้องรู้ก่อนว่าจะลงทุนแบบไหน

แต่กลยุทธ์ กฎ หรือเทคนิค เหล่านั้น บางอย่างขัดกันเอง เช่น นักเก็งกำไร มักจะแนะนำให้เล่นหุ้น ตามกระแส แต่ถ้าเป็นพวก Value Investor เขาย่อมแนะนำให้ซื้อหุ้น สวนกระแส วันนี้จึงอยากจะแนะนำหลักสำคัญบางอย่าง เพื่อใช้ในการเล่นหุ้นที่เชื่อถือ ได้และนำไปใช้ได้จริง ตั้งชื่อให้มันว่า บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้น

ข้อที่ 1 ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจซื้อหุ้น อย่าใช้การเดาในการซื้อหุ้น

เมื่อเกิดความไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ แล้วซื้อหุ้น ถือว่านั่นเป็นการเดา ซึ่งความเสี่ยงต่อการขาดทุนมีสูงแน่นอน ไม่ใช้อารมณ์ในการซื้อหุ้น ให้เฝ้ารออย่างใจเย็น ที่สำคัญคืออย่าโลภ เช่นเห็นหุ้นกำลังวิ่งแล้วรีบกระโดดเข้าไปซื้อ อย่าลืมว่า หุ้น ที่กำลังวิ่ง เกิดจากกลุ่มนักลงทุนรายวัน ซึ่งโอกาสถูกนั้นมีครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งจะส่งผลในการเล่นในระยะยาว

ข้อที่ 2 อย่าสนใจ หุ้นเด็ด จากเซียนๆทั้งหลาย ถ้าหากเราไม่ใช่คนเชื่อคนง่าย การลงทุนขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น ไม่ว่าทีเด็ดมาจากที่ไหน สุดท้าย คนที่จะตัดสินใจก็คือเรานั่นเอง

ข้อที่ 3 ให้ความสำคัญกับตัวหุ้นหรือกิจการมากกว่าที่จะให้ความสำคัญสภาพเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว เพราะถึงแม้ว่าในสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ แต่บางบริษัทกลับสามารถเติบโตได้สวนกระแสเศรษฐกิจ ดังนั้นอย่าให้สภาพทางเศรษฐกิจมาเป็นตัวสร้างความไขว้เขวให้กับเราได้

ข้อที่ 4 ข้อเท็จจริงคือว่า หุ้นมักจะดูแย่กว่าในช่วงที่ตลาดตกต่ำ และดูดีกว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดอยู่ในช่วงที่วิ่งถึงจุดสูงสุด เมื่อเราจะเล่นหุ้นในระยะยาวและทำกำไรได้มากๆ จงมีความกล้าที่จะซื้อเมื่อทุกอย่างดูแย่และเลวร้าย และกล้าขายเมื่อทุกอย่างดูดีจนไม่น่าเชื่อ

ข้อที่ 5 จำไว้ด้วยอย่างนึงว่า เป็นเรื่องยากมากที่เราจะซื้อหุ้นจากจุดที่ต่ำสุด และขายหุ้นบนจุดที่อยู่สูงสุด ในยามที่ตลาดมีความผันผวนสูง หุ้นอาจตกต่ำกว่าไปเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานได้ เช่นเดียวกับยามที่คนมองในแง่ดี หุ้นก็อาจขึ้นเกินพื้นฐานความเป็นจริงได้เช่นกัน เพราะฉนั้นอย่าคาดหวังว่าเมื่อเราซื้อหุ้นแล้วหุ้นจะขึ้นทันที หรือเมื่อขายแล้วหุ้นจะลงทันที จงเชื่อในข้อมูลและการวิเคราะห์ของเรา แล้วมองออกไปในระยะยาว

ข้อที่ 6 ถ้าเรามั่นใจในตัวหุ้นที่เราลงทุนไปและคาดว่าจะมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีการเติบโตที่ดีในอนาคต อย่าขายเพียงเพราะว่าราคาหุ้นที่ดูสูงหรือหุ้นที่วิ่งขึ้นไปเร็วเกินไปชั่ว คราว เพราะถ้าพลาดเราอาจไม่สามารถกลับมาซื้อมันได้อีกและทำให้เราพลาดโอกาสที่จะ สร้างกำไรที่ดีเยี่ยมในอนาคตไป

ข้อที่ 7 อย่าหลงรักจนตาบอด หมายถึงหุ้นที่เราชอบและทำกำไรมาตลอด พอถึงเวลานั้นอาจทำให้เราวิเคราะห์หุ้นได้อย่างเป็นกลางไม่มีความลำเอียง หุ้นนั้นรักได้แต่อย่าหลง เราจะต้องตรวจสอบ ติดตาม และประเมินความคุ้มค่าอยู่ตลอดเวลาและเมื่อถึงเวลาที่จะตัด ก็ต้อง โหดร้าย พอ เมื่อเวลาที่มันหมดเสน่ห์แล้ว

ข้อที่ 8 อย่าไปสนใจว่าหุ้นเคยอยู่ที่จุดไหนมาก่อน สิ่งที่เราต้องสนใจคือ หุ้นจะไปอยู่ที่จุดไหนมากกว่า หุ้นบางตัวอาจเคยทำกำไรได้สูงมากๆ แต่ปัจจุบันหุ้นอยู่ในระดับกลางจนถึงระดับล่าง อย่าคิดว่าหุ้นจะกลับไปยังที่จุดเดิม ตัวเลขใหม่คือของจริงเสมอ หุ้นที่คิดว่าต่ำ อาจลงไปต่ำกว่านี้อีกก็ได้

ข้อที่ 9 เน้นลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพสูง ในหุ้นระดับต่ำอาจทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว แต่ในระยะยาวหุ้นคุณภาพสูงจะทำกำไรและนำความสำเร็จมาอย่างสม่ำเสมอ แต่หากจะทำกำไรกับหุ้นคุณภาพต่ำ ควรเลือกเล่นเป็นครั้งคราวได้ แต่อย่าติดไปกับหุ้นระยะสั้นเพราะจะทำให้กลับมาประสบความสำเร็จกับหุ้นใน ระยะยาวได้ยาก

ข้อที่ 10 ใช้เวลากับการลงทุน ตรวจสอบหุ้นอย่างสม่ำเสมอ หุ้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราต้องตัดตัวที่อ่อนแอ และซื้อตัวที่ดีกว่ามาแทน แต่นี่ไม่การซื้อหุ้นรายวัน รายเดือน หรือรายปี แต่เป็นการซื้อตามสถานการณ์ของหุ้นตัวนั้นๆโดยปกติถ้าเราซื้อหุ้นแล้วถือไม่ ถึงปี ถือว่าวิธีซื้อหุ้นของเราไม่ได้เน้นที่หุ้นคุณภาพเป็นหลัก

การเล่นหุ้นเป็นสิ่งที่ไม่มีกฎ หรือเทคนิคที่อะไรตายตัว นี่เป็นเพียงกฎหนึ่งที่คิดว่าดีและมีความเป็นไปได้ในการสร้างกำไร และยังเป็นแนวทางที่ดีสำหรับมือใหม่หรือมือเก่าได้เป็นอย่างดี ยังมีอีกหลายวิธีที่ยังไม่ได้พูดถึง แต่ขอบอกว่านี่คือวิธีที่นักลงทุนระดับโลกอย่าง วอเร็น บัฟเฟตต์ ใช้และประสบผลสำเร็จ และแน่นอน

การลงทุนคือความเสี่ยง…สวัสดี